#นวนิยายชุดที่เรื่องราวต่อกัน#หลงเงา #พลอยเปลี่ยนสี #ววินิจฉัยกุล#เรื่องราวระหว่างบรรทัดจากหนังสือที่รัก #นวนิยายที่รัก #หนังสือที่รัก
ใครที่เป็นแฟนนวนิยายคิดว่าส่วนใหญ่น่าจะชอบนวนิยายชุดที่เรื่องราวต่อกันนะคะ ตั้งแต่ยุคคลาสสิคหลายเรื่องที่เป็นที่นิยมกันมายาวนาน อย่างชุดปริศนา เจ้าสาวของอานนท์และรัตนาวดี ผลงานของ ว. ณ ประมวญมารค
หรืออีกชุดที่ชอบเป็นชุดนวนิยายรักพาฝันที่มีตัวละครเป็นราชนิกุลทั้งชุดสี่เรื่อง ผลงานนวนิยายของ วลัย นวาระ ในสี่เรื่องที่มีชื่อเรื่องว่า หม่อมเจ้าสุริยกานต์, คุณชายธมกานต์, เพชรเทพกานต์ และ พธูเทพกานต์
สำหรับผลงานของนักเขียนคนโปรดอย่าง ว.วินิจฉัยกุล มีนวนิยายที่เป็นชุด มีเรื่องราวต่อเนื่องกัน ที่เป็นที่นิยมและเป็นที่ชื่นชอบ เช่น
- ของขวัญวันวาน - สุดหัวใจที่ปลายรุ้ง
- ลมพัดผ่านดาว - เพลงสายลม-หน้าต่างสายลม
- ราตรีประดับดาว - เทวาพาคู่ฝัน
- หลงเงา - พลอยเปลี่ยนสี
วันนี้ขออนุญาตรีรันบทบันทึกการอ่านที่เคยเขียนไว้นานแล้วถึงนวนิยายชุด หลงเงา - พลอยเปลี่ยนสี ที่ภาคแรกในเรื่องหลงเงา จะเล่มไม่หนามาก เล่าเรื่องความรักครั้งแรกของอ้อมรัก นางเอกที่หลงเงาของเอราวัต จบลงท้ายเล่มด้วยความผิดหวัง แต่ผู้เขียนทิ้งท้ายด้วยการเปิดตัวละครชายหนุ่มคนใหม่ออกมา นั่นคือ "ชนาณัติ" พระเอกตัวจริงของอ้อมรัก ที่จะมีเรื่องราวความรักยาวเหยียดในภาคต่อ "พลอยเปลี่ยนสี" ที่เล่มหนาปึก
ส่วนตัวฉันชอบตัวละคร ‘ชนาณัติ’ พระเอกในเรื่องพลอยเปลี่ยนสีนี้มาก เป็นพระเอกที่ผู้เขียนบรรยายจากต้นเรื่องจนจบเรื่อง เห็นถึงบุคลิกและการพัฒนาตัวละครที่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ได้ละเอียดชัดเจน เป็นพระเอกที่มีทั้งภาพสีขาวสีดำสีเทาปะปนกันไปแบบมนุษย์ปุถุชนธรรมดา
เมื่อครั้งผู้เขียนเขียนเรื่องหลงเงา ในภาคแรก เมื่อปี 2539 ที่เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ของอ้อมรักกับเอราวัต เป็นความสัมพันธ์ที่ต่างฝ่ายต่างเห็นกันเพียงเงา ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง แล้วสุดท้ายก็ไปต่อไม่ได้
ชนาณัติออกมาตอนท้ายเรื่องนิดเดียว แต่กลับประทับใจคนอ่านจนอยากอ่านเรื่องราวชายหนุ่มคนนี้เพิ่มเติม ฉันประทับใจเสน่ห์ของชนาณัติที่ผู้เขียนทิ้งท้ายไว้ให้เราอยากติดตามเรื่องราวของเขาและเธอต่อ ฉากตอนท้ายที่น่ารักและประทับใจ ตอนชนาณัติขับรถมาส่งอ้อมรักที่บ้าน
…อ้อมรักปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวอย่างกระฉับกระเฉงแล้วพนมมือไหว้เขา
"ดิฉันจะลงไปกดกริ่งเอง ขอบคุณมากค่ะ…สำหรับทุกอย่าง"
มือเขายื่นออกมา คล้ายจะกุมมือไว้ในทีแรก แต่แล้วก็ยั้งไว้เพียงแตะปลายนิ้วหญิงสาวเอาไว้เป็นเชิงบอกว่า…เขามีเรื่องจะพูดกับหล่อน
ไฟจากเหนือเสาประตูสาดแสงผ่านกระจกติดฟิล์มเข้ามามองเห็นแววตานั้นเป็นสีน้ำเงินเงาจางๆ อยู่ในเงามืด
"คุณคิดอย่างไร…" เสียงเขาแผ่วต่ำลง "สำหรับครั้งแรกที่คุณรู้จักผม"
ลึกลงไป น้ำเสียงนั้นมีความกระวนกระวายแฝงอยู่ จนหญิงสาวอดยิ้มกับตัวเองไม่ได้ ชนาณัติเองก็มีคำถามเหมือนอย่างที่หล่อนอยากถามเขานั่นแหละ
"ดิฉันคิดว่าคุณมีอะไรที่…" หล่อนทอดจังหวะนิดหน่อยให้เขาอยากรู้เพิ่มขึ้น "แปลกกว่าคนอื่นๆ"
"ในทางดีหรือไม่ดี"
"ต้องทางดีซีคะ…จำไม่ได้หรือ ดิฉันบอกคุณว่า…คุณทำให้ดิฉันมีความสุขมาก"
แล้วคนอ่านก็อินฟินกับคุณชนาณัติ รอคอยจากปี 2539 จนต่อมา ในปี 2552 ผู้เขียนก็ได้เริ่มเขียนเรื่อง พลอยเปลี่ยนสี ลงในนิตยสารสกุลไทย ทำให้ผู้อ่านได้รู้จักตัวละคร ชนาณัติ พระเอกตัวจริงในที่สุดของ อ้อมรัก มากยิ่งขึ้นแบบเต็มอิ่ม เพราะเล่มสอง หนาปึก และสนุกมาก (โชคดีว่าฉันซื้อมาอ่านรวดเดียวสองเล่มในภายหลัง)
นวนิยายเล่มสองนี้หนามาก แต่ก็อ่านสนุกและลุ้นไปกับชีวิตและความคิดทัศนคติของอ้อมรักที่มีต่อเรื่องความรักและคู่ครอง หลังจากเธอได้รับบทเรียนแรกจากเรื่องก่อน ในเรื่องนี้ก็ยังมีบททดสอบที่กว่าอัอมรักจะผ่านไปได้ และยอมรับชนาณัติในท้ายเรื่องนั้น ไม่ใช่ง่ายๆเลย
ฉันชอบคติสอนชีวิตในเรื่องนี้มาก ที่ผู้เขียนถ่ายทอดผ่านคำสอนของพ่อที่จากไปของเธอในยามที่อ้อมรักประสบปัญหา คำสอนของพ่อจะคอยเตือนสติเธออยู่เสมอ ทำให้อ้อมรักเป็นคนที่ใช้เหตุผลตอบคำถามในใจของตนในทุกเรื่อง จนในบางครั้งรู้สึกว่าเพราะความผิดพลาดในอดีตจนทำให้เธอกลัวความรักและตั้งกำแพงไว้สูงมาก จนอดที่จะสงสารชนาณัติไม่ได้ในภาคจบที่ต้องฝ่าฟันกว่าจะพบจุดที่ลงตัว เข้าใจกันและมีความสุขได้อย่างที่ควรจะเป็น
และตามธรรมเนียมขอจบท้ายบทบันทึกนี้ด้วย ความประทับใจจากฉากรักในนวนิยายเช่นเคย
แม้ว่าเวลาล่วงผ่านไปนาน อ้อมรักก็ยังจำได้ติดตาติดใจ ถึงแววตาแห้งแล้งของชายหนุ่มเปลี่ยนมาวาววับราวกับประกายแก้วใส เป็นสิ่งที่จับใจหล่อนยิ่งนัก ราวกับเขาพาตัวขึ้นพ้นจากห้วงน้ำลึกสู่อากาศบริสุทธิ์เหนือผิวน้ำ พบแสงสว่างใสของท้องฟ้าอีกครั้งหนึ่ง
ก่อนจะรู้ตัว หล่อนก็พบว่าอีกฝ่ายสวมกอดหล่อนไว้แน่น แนบแก้มลงบนเส้นผมนุ่มๆ นิ่งอยู่ในท่านั้นอีกนาน
"ขอบคุณอ้อม…ขอบคุณมาก"
สัมผัสของชายหนุ่มไม่ใช่ความเสน่หาเชิงชู้สาว แต่เต็มตื้นไปด้วยปีติ เหมือนคนที่ซวนเซอยู่กลางพายุฝนกระหน่ำ แล้วพบว่ามีประตูบ้านหลังหนึ่งเปิดรับ ให้พ้นจากอากาศหนาวเย็นและเปียกปอน เข้าไปพบแต่ความอบอุ่นปลอดภัยใต้ชายคา
ชนาณัติคลายวงแขนออก ประคองดวงหน้าหญิงสาวไว้ในอุ้งมือ มองลึกลงในดวงตาหล่อน
"ผมจะไม่ทำให้อ้อมผิดหวัง"
คำสั้นๆ แต่มีความหมายอย่างยิ่งสำหรับคนฟัง อ้อมรักรู้ว่าชนาณัติไม่ได้หมายถึงเรื่องในเวลานี้เท่านั้น หากย้อนไปถึงอดีตอีกด้วย
เขาจูบหล่อนเป็นครั้งแรก ในสองปีที่รู้จักกันมาก่อนหน้านี้ชนาณัติทำอย่างมากก็แค่โอบไหล่หลวมๆ หรือว่าจูบมือหล่อนเล่นๆ เพราะรู้ว่าอ้อมรักเป็นผู้หญิงหัวเก่า ไม่ชินกับโอบกอดสัมผัสเนื้อตัวอย่างเห็นเป็นเรื่องธรรมดา เขาเคยโอบเอวหล่อนเมื่อรู้จักกันใหม่ๆ เมื่ออ้อมรักเกร็งตัวและเบี่ยงออกห่าง เขาก็ดูออกว่าหล่อนไม่ชอบ จึงไม่เคยทำอย่างนั้นอีก
- หลงเงา : ว.วินิจฉัยกุล
- พิมพ์รวมเล่มครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์ต้นอ้อ เมื่อปี 2539
- ภาพประกอบเรื่องคือฉบับพิมพ์ครั้งที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556
- จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ทรีบีส์
- ภาพปก : เกริกบุระ ยมนาค
- ราคาปก 260 บาท
- จำนวน 341 หน้า
- พลอยเปลี่ยนสี (หลงเงา ภาค 2) : ว.วินิจฉัยกุล
- ลงพิมพ์ในนิตยสารสกุลไทย พ.ศ.2552 – 2554
- ภาพประกอบเรื่องคือฉบับพิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม 2554
- จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ทรีบีส์
- ภาพปก-ออกแบบ : ฟารุต สมัครไทย
- ราคาปก 470 บาท
- จำนวน 711 หน้า
รีไรต์และรีรันบันทึกการอ่านอีกครั้งค่ะ
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตาม
กติกา สามารถคลิก
แจ้งปัญหาได้ที่นี่