#บันทึกการอ่าน #เงาจันทร์ #กฤษณาอโศกสิน
เพราะบังเอิญได้หนังสือนิยายเก่าเรื่องนี้จากในกลุ่มนิยาย จึงได้อ่านและชอบจนอยากบันทึกการอ่านเก็บไว้ค่ะ
นวนิยายเรื่อง “เงาจันทร์” ของ กฤษณา อโศกสิน เป็นนวนิยายเก่าที่มีพิมพ์ครั้งที่หนึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2538
เป็นนวนิยายที่ผู้เขียนกล่าวไว้ในคำนำว่าได้มีโอกาสรู้จักสุภาพสตรีผู้หนึ่ง เธอใช้ไม้เท้าและรถเข็นก็จริง แต่ก็ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการนิตยสารสำหรับเยาวชนได้อย่างน่ายกย่อง จึงนำเธอมาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนถึง “คนพิการ” ผ่านนวนิยายเรื่องนี้
ตอนที่อ่านคำนำยังไม่ทราบว่าหญิงสาวคนนั้นคือใคร แต่เมื่ออ่านนวนิยายจนจบ จึงคาดว่าน่าจะเป็นคุณงามพรรณ เวชชาชีวะ เพราะตัวละครนางเอกในนวนิยายนี้มีรายละเอียดชีวิตคล้ายกับคุณงามพรรณ
นางเอกของเรื่องชื่อ ศศิน สิตาสาณี มีชื่อเล่นว่า เมย์ เธอเป็นบุตรสาวของคุณวรวิทย์และคุณชฎา มีน้องชายคนเดียวคืออินทร ครอบครัวเธอมีเชื้อสายสกุลใหญ่ มีฐานะมั่งคั่ง หลังศศินเรียนจบเอกภาษาฝรั่งเศสจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เธอได้ไปเรียนต่อด้านล่ามและการแปลขั้นสูงจากกรุงบรัสเซลล์ เบลเยี่ยม
ฉากหลังของนวนิยายคือหลังช่วงเวลาปี พ.ศ. 2530 หลังศศินเรียนจบกลับจากต่างประเทศ เธอก็ได้ข่าวว่ามีเพื่อนรุ่นพี่ที่เรียนรุ่นเดียวกันติดต่อผ่านอาจารย์ที่ปรึกษาขอความช่วยเหลือให้เธอช่วยแปลบทความภาษาฝรั่งเศสเกี่ยวกับการสำรวจสภาพป่า
เพื่อนรุ่นพี่คนนั้นคือพระเอกของเรื่อง ป่าสัก สาราจารย์ ชายหนุ่มที่เคยมีอะไรบางอย่างฝังอยู่ในใจศศิน พี่ป่าสักเป็นรุ่นพี่โตกว่าถึงเจ็ดปี เขาเป็นอดีตนักศึกษายุคหกตุลาที่ออกจากป่า แล้วกลับมาเรียนที่ธรรมศาสตร์พร้อมเธอ พี่ป่าสักเรียนจบเอกอังกฤษ สมัยเรียนเคยมีรักแรกเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับศศิน
เมื่อศศินติดต่อพี่ป่าสักก็ได้ทราบว่าปัจจุบันเขาเป็นบรรณาธิการและเจ้าของนิตยสารท่องไพร ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่เชียงราย แล้วก็เดินทางเข้าป่าสำรวจป่าเพื่อหาข้อมูลในการทำนิตยสารตลอดเวลา
ศศินช่วยแปลบทความให้พี่ป่าสัก แล้วทั้งคู่ก็มีโอกาสพบกันอีกครั้งเมื่อพี่ป่าสักลงมากรุงเทพ แล้วศศินก็ชวนพี่ป่าสักเขียนบทความลงในคอลัมน์ “ส่องกล้องท่องไพร” ในนิตยสารรายเดือนสำหรับเด็กที่ศศินเป็นบรรณาธิการ
ทั้งคู่กลับมาติดต่อใกล้ชิดกันอีกครั้ง แล้ว “โลกด้านใน” ของศศินในยามอยู่คนเดียวก็เต็มไปด้วยความคิดถึงพี่ป่าสัก ในขณะที่ชีวิตประจำวันหรือโลกภายนอกที่ผู้คนเห็นเธอคือหญิงสาวพิการผู้พยายามทุกอย่างที่จะใช้ชีวิตด้วยตัวเองและเข้มแข็ง
นวนิยายเรื่องนี้จึงมีรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตของคนพิการ ในขณะที่เส้นเรื่องความรักก็ย่อมต้องมีอุปสรรคเป็นธรรมดา ทั้งเรื่องพี่ป่าสักมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับสีคราม หญิงสาวทำงานธนาคารที่เป็นหลานสาวของพรานอ้วน พรานคนสนิทที่คอยนำทางและออกเดินป่าร่วมกับป่าสักจนสนิทสนมกัน ชีวิตที่ป่าสักทุ่มเทให้กับงานเรื่องป่ามาเป็นที่หนึ่ง โดยไม่ได้คิดจะลงหลักชีวิตรักจริงจังกับใครหลังอกหักจากรักแรกเมื่อหลายปีก่อน
ระหว่างอ่านเราก็จะได้เห็นบทบรรยายความรู้สึกด้านในของศศินที่มีความรักแต่ต้องแอบเก็บซ่อนไว้ในใจ เธอจะเฝ้ารอโทรศัพท์จากพี่ป่าสักเสมอ แม้บทสนทนาที่ได้พูดคุยกันสั้นๆ จะมีเพียงแต่เรื่องงานที่ทำร่วมกันก็ตามที
ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นเมื่อวันหนึ่งป่าสักเกิดถูกยิงระหว่างร่วมคณะข้าราชการเข้าป่าจับไม้เถื่อนแล้วมารักษาตัวที่กรุงเทพ จนต่อมาไปพักฟื้น ณ ที่พักริมทะเล แล้วศศินก็ร่วมเดินทางไปด้วย แต่เรื่องราวก็พลิกผันจนเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายเมื่อสีครามที่หึงหวงตามลงมาแล้วเกิดเหตุไม่คาดฝันจนทำให้ศศินถูกยิง ตั้งแต่นั้นครอบครัวศศินก็โกรธป่าสักและคิดว่าเรื่องราวทุกอย่างที่ศศินต้องลำบากวุ่นวายล้วนเกิดมาจากความสัมพันธ์นี้ แล้วพ่อแม่ก็ขอให้ทั้งคู่เลิกติดต่อกัน
เรื่องราวในตอนท้ายก็จะต้องใช้เวลาเป็นตัวช่วยให้ทุกสิ่งทุกอย่างค่อยๆเข้ารูปเข้ารอย ในขณะที่ศศินหรือเมย์ยังคงแน่วแน่ในความรู้สึกตัวเอง คงจะต้องรอให้ฝ่ายพี่ป่าสักมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างชัดเจนและตัดสินใจจัดลำดับความสำคัญในชีวิตใหม่ทั้งคู่ก็จะพบความสุขบนจุดที่ลงตัวที่สุดในวันใดวันหนึ่ง
อ่านจบนานแล้วถือว่าจบดีมีความสุขและชีวิตของหญิงสาวพิการอย่างศศินก็เต็มไปด้วยความหวังในขณะที่มีพี่ป่าสักอยู่ข้างๆ ส่วนตัวอ่านจบแล้วชอบ คิดว่าอยากบันทึกการอ่านไว้ เพราะไม่เคยทราบว่ามีนวนิยายเรื่องนี้ เมื่อได้อ่านแล้วชอบ ก็อยากเขียนให้เพื่อนนักอ่านได้ลองอ่านบ้างค่ะ
2 มีนาคม 2567
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่