#เล่าเรื่องการเขียนบูโจ #เขียนอธิบาย#BulletJournal #สมุดบันทึกทำมือ
วันนี้อยากเขียนอธิบายถึงโครงสร้างและรายละเอียดรูปแบบการจดบันทึกแบบ Bullet Journal สมุดบันทึกทำมือส่วนตัวที่ทดลองรวมถึงบันทึกที่มาที่ไปของการออกแบบและคัดเลือกหัวข้อใส่ใน Bullet Journal ของฉัน
เมื่อฉันเริ่มต้นกลับมาสู่โลกอนาล็อก และเริ่มต้นการเขียนบันทึกลงในสมุดไดอารี่ทำมือ ที่เรียกว่า Bullet Journal วันเวลาของฉันก็รู้สึกสนุกเพลิดเพลินในความสุขใหม่ๆนี้
Bullet Journal หรือที่เรียกกันสั้นๆย่อๆว่า BUJO เป็นรูปแบบการเขียนบันทึกส่วนตัวที่คิดค้นโดยชาวอเมริกันที่ชื่อ Ryder Carroll โดยมีรูปแบบการจดบันทึกที่แตกต่างจากสมุดไดอารี่สำเร็จรูปที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป ที่จะมีแพลตฟอร์ม ปฏิทิน ช่องสำหรับบันทึกรายเดือน รายสัปดาห์ เป็นรูปแบบคล้ายคลึงกันไปหมด
การบันทึกแบบ BUJO นี้ใช้เทคนิคการจดบันทึกแบบ Rapid Logging ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก 4 อย่าง ได้แก่
- Topic หรือหัวข้อสำคัญที่ต้องการจด
- Pages Numbers เลขหน้าที่เรากำหนดไว้ เพื่อใช้ในการทำสารบัญ สำหรับใช้ในการค้นหา
- Short Sentences การใช้ประโยคสั้นๆ ในการบันทึก เช่น งานที่ต้องทำ นัดหมาย บันทึกช่วยจำ รายการค่าใช้จ่าย
- Bullets การกำหนดสัญลักษณ์ช่วยจำในการจดบันทึก ตัวอย่างเช่น
- เครื่องหมายจุดทึบ คือ สิ่งที่ต้องทำ คล้ายๆ กับ To Do Lists
X เครื่องหมายกากบาท หมายถึง งานที่ทำเสร็จแล้ว
> เครื่องหมายมากกว่า แทนค่างานที่ยังทำไม่เสร็จ และต้องเลื่อนกำหนดออกไป
- เครื่องหมายขีด คือโน๊ตช่วยจำ เรื่องทั่วไป
* เครื่องหมายรูปดาว หมายถึงเรื่องสำคัญที่ต้องการเน้นให้ชัดเจนและไม่ลืม
นอกจากนี้ใน BUJO นี้จะมีโครงสร้างการจดบันทึกแยกเป็นส่วนๆดังนี้
- Index หรือสารบัญหัวข้อหลักที่เราต้องการจดบันทึก ในสารบัญจะมีระบบการเขียนบอกเลขหน้าในแต่ละเรื่อง เพื่อความสะดวกในการค้นหา
- Future Log ส่วนนี้สำหรับการบันทึกแผนงานล่วงหน้าตลอดปี ช่วยในการมองภาพรวมทั้งปี โดยอาจทำในรูปแบบปฏิทินเป็นเดือนครบ 12 เดือนในสองหน้าก็ได้
- Monthly Log เป็นส่วนย่อยออกมาจาก Future Log สำหรับจดบันทึกแผนงานรายเดือน การจดบันทึกของเจ้าของ BUJO แต่ละเล่มก็ต่างกันตามรูปแบบและสไตล์ที่ชอบ
นอกจากนี้เราสามารถแยกย่อยลงไปได้อีกหากจำเป็น โดยจดบันทึกลงใน Weekly Log หรือ Daily Log ตามความชอบและจำเป็น
จากข้างต้นเราจะเห็นรูปแบบโครงสร้างหลักโดยทั่วไปอย่างกว้างๆของ BUJO แต่ในการจดบันทึกของจริง เราสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระตามกิจกรรมและความชอบส่วนตัว
ซึ่งนี่คือเสน่ห์ของ BUJO ตามความคิดของฉัน เท่าที่สัมผัสได้ คือการจดบันทึกสไตล์ส่วนตัวตามกรอบกว้างๆ ที่กำหนดไว้หลวมๆ ไม่เคร่งครัดในรูปแบบ
และการจะจดบันทึกให้สนุกเพลิดเพลินมากขึ้นนั่นคือ การหาแรงบันดาลใจในสิ่งต่างๆรอบตัวที่เจ้าของสมุดชื่นชอบ แยกลงไปในหัวข้อใส่ลงในส่วน Index ได้ตามใจชอบ
สำหรับใน BUJO ส่วนตัวของฉันนั้น ได้เริ่มต้นจดบันทึกแบบใหม่นี้เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ฉันได้ออกแบบโครงสร้างสมุดบันทึกส่วนตัวตามความชอบและการให้ความสำคัญในเรื่องต่างๆของตนเองออกมาดังนี้
โดยฉันได้กำหนดหัวข้อหลักใส่ลงใน Index ไว้แล้วแยกเป็นข้อๆดังต่อไปนี้
1. Future Log หรือ Year Plan
ในหน้านี้ฉันกำหนดไว้สำหรับบันทึกทุกอย่างในภาพรวมทั้งปี ซึ่งฉันบันทึกในรูปแบบปฏิทินแยกเป็นเดือนทั้งสิบสองเดือน ทั้งกำหนดนัดหมายพบหมอเรื่องสุขภาพตลอดปี รวมถึงนัดหมายชำระค่าใช้จ่ายรายการใหญ่ๆในครอบครัว เช่น ค่าส่วนกลางหมู่บ้านประจำปีตอนต้นปี ค่าประกันภัยรถยนต์และต่อภาษีประจำปี ค่าเทอมของลูก ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวประจำปี เป็นต้น
2. Health Appointment
ในส่วนนี้ฉันแยกออกมาอีกส่วนต่างหากโดยเฉพาะ เตรียมไว้สำหรับจดรายละเอียดเพิ่มเติมหลังจากไปพบแพทย์ตามนัดหมายแล้ว อาจต้องบันทึกความคืบหน้า ผลการตรวจรักษา และยอดค่าใช้จ่ายในการรักษา เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลช่วยจำ
3. Other Appointment
ในส่วนนี้ฉันแยกเป็นนัดหมายอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ เช่นนัดหมายสังสรรค์ในครอบครัว นัดหมายงาน นัดหมายพบปะเพื่อน เป็นต้น
4. Future Vision
เป้าหมายในอนาคตที่คิดไว้ ตัวอย่างเช่น เป้าหมายในการทำบล็อก เป้าหมายในงานเขียน เป้าหมายในการดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น เป้าหมายเรื่องการเรียนของลูก เป็นต้น
5. Wish List
รายการความปรารถนา ฉันเว้นหน้าสำหรับหัวข้อนี้เพียงหน้าเดียว สำหรับบันทึกสั้นๆ ในสิ่งที่อยากทำ ในของที่อยากได้ชิ้นใหญ่ที่ต้องรอจัดสรรงบประมาณ ไม่กล้าเขียนเยอะในข้อนี้
6. Important Expenses Lists
ส่วนนี้ฉันแยกย่อยออกมาบันทึกแบบรายเดือน โดยทำสรุปค่าใช้จ่ายรายเดือนทุกเดือนให้เห็นตัวเลขประจำเดือน แยกเป็นรายการให้เห็นชัดเจนว่าแต่ละเดือนเสียเงินไปกับค่าใช้จ่ายส่วนใดบ้าง ที่ต้องทำเพราะฉันเป็นแม่บ้านที่ดูแลการเงินของครอบครัวนั่นเอง
7. Expenses Lists Notes
จะเห็นว่าฉันให้ความสำคัญกับเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้าน ในส่วนนี้ก็แยกเป็น Monthly Lists เพื่อจดบันทึกช่วยจำถึงรายการค่าใช้จ่ายในครอบครัวในรายละเอียดปลีกย่อย ซึ่งโดยส่วนตัว ฉันทำบัญชีค่าใช้จ่ายทุกวันอย่างละเอียดมาหลายปีแล้ว
8. Happy Little Things
สิ่งเล็กๆ แห่งความสุข ฉันจัดส่วนนี้ไว้สำหรับจดเรื่องราวไร้สาระแต่สร้างสุขเพิ่มกำลังใจ อาจเป็นภาพถ่ายลูก หรืออะไรก็ได้ที่เราพบเจอในแต่ละวัน เห็นปุ๊บจดปั๊บแนวนั้นนั่นเอง
9. Good Memories
ความทรงจำดีๆในชีวิต ฉันแบ่งส่วนนี้ไว้สำหรับเรื่องเก่าๆในอดีต อาจเป็นภาพถ่ายในวัยเด็ก วัยเรียนมหาวิทยาลัย หรือภาพเก่าเราสองคนสมัยเป็นแฟนอะไรทำนองนี้ คิดว่าจะแปะภาพถ่ายและเขียนอะไรสั้นๆ ประกอบภาพเท่านั้น
10. Travel Blog
ส่วนนี้ฉันอยากเผื่อไว้สำหรับภาพสวยๆ จากสถานที่ท่องเที่ยวที่เคยไปมาและประทับใจ คงจะเป็นภาพที่ถ่ายเก็บไว้มากมาย เขียนบันทึกถึงสถานที่ วันเดือนปีที่เดินทางและโน๊ตสั้นๆถึงความประทับใจ
11. My Writing Work
ในส่วนนี้คงต้องแยกเป็นเวอร์ชั่น ในพาร์ทแรกใช้สำหรับคัดลอกงานเขียนที่เริ่มต้นเขียนจริงจังตั้งแต่เริ่มเรียนเขียน เริ่มแรกคือการคัดลอกการบ้านจากคอร์สเขียนซะป๊ะ ส่วนนี้คงค่อยๆทำ
12. My OnlineWorld Blog
ฉันแบ่งส่วนนี้ไว้สำหรับจดบันทึกคอนเท้นท์ที่อยากทำใส่ในบล็อกของฉันใน Wordpress
13. All About Books
ฉันแบ่งส่วนนี้ไว้สำหรับโน๊ตถึงหนังสือที่ซื้อไว้แล้วในตู้ รออ่าน หนังสือที่อ่านแล้วและชอบหรือไม่ชอบ โน๊ตเตือนความจำไว้ รวมทั้งหนังสือออกใหม่ที่อยากได้และเล็งว่าจะซื้อมาอ่านเพิ่มเติม
14. Love Quotes From Books , Films and Drama Series
ความที่เป็นคนชอบอ่านชอบดูหนังรักและซีรีส์มากมาย มักจะมีบางประโยค บางตอน หรือคำพูดตัวละครที่ประทับใจ เมื่อก่อนบันทึกใส่กระดาษเก็บไม่เป็นที่ กระจัดกระจาย จึงตั้งใจว่าจะแบ่งส่วนนี้ไว้สำหรับบันทึกเก็บไว้อ่าน
15. My Writing Work
ฉันคั่นรายการไปหลายเรื่องก่อนที่จะมาถึงส่วนบันทึกการบ้านงานเขียนในคอร์สที่สองที่เรียน คือคอร์สเขียนทิพส์ ณ ตอนนี้ ฉันจัดแบ่งสมุดบันทึกไว้แล้วคร่าวๆตามหัวข้อข้างบน คิดว่าในอนาคตคงมีเพิ่มเติม
การเตรียมสมุดบันทึกให้พอจึงสำคัญมาก กรณีที่เรามีหัวข้อมากมายที่อยากจดบันทึกไว้ สำหรับสมุดบันทึกของฉันเล่มนี้ เป็นสมุดบันทึกปกแข็งแบบไม่มีเส้น เป็นหน้าว่างๆ เขียนได้ตามใจชอบ ความหนาพอสมควร คือ สมุดบันทึกที่ฉันซื้อมาจากเพจ The Cloud คือ
The Cloud Diary Limited Edition
- ขนาด : 18.5 x 12 เซนติเมตร
- เป็นไดอารี่ปกแข็ง
- เข้าเล่มแบบ เย็บกี่ ปกแข็งสันโค้ง มีริบบิ้น
- รูปแบบกระดาษคือกระดาษปอนด์ 100 แกรม สีครีม ไม่มีเส้น มีจำนวนหน้า 288 หน้า
- ซื้อมาแล้วสองเล่มในราคาเล่มละ 250 บาท
การจดบันทึกในสมุดนั้น เหมือนกับการเรียบเรียงข้อมูลความชอบ ความสนใจ หลายสิ่งหลายอย่างที่สำคัญในชีวิต ถ่ายทอดผ่านปากกาและภาพถ่ายลงในสมุดบันทึกเล็กๆนี้ ในระหว่างช่วงสองสามวันที่นั่งเขียนและออกแบบ ทำให้ฉันได้กลับมาคุยกับตัวเองอีกรูปแบบหนึ่ง ระหว่างที่จดบันทึก ความรู้สึกเพลิดเพลิน มีสมาธิเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทำให้วันเวลาระหว่างจดบันทึกผ่านไปอย่างรวดเร็วและมีความสุข
ยามว่างระหว่างวันที่ไม่ได้จดบันทึก ฉันเปิด BUJO อ่านที่บันทึกไว้อย่างช้าๆ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่าความสุขใจเกิดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว เป็นวันดีๆอีกวันที่ผันผ่านไปโดยที่ฉันไม่เสียใจเลย
แก้วเจ้าจอม
บันทึกไว้เมื่อ 18 มิถุนายน 2562
ปัจจุบันเขียนๆ หยุดๆ และเริ่มเขียนเล่มปี 2566 แล้วค่ะ แต่รายละเอียดในบูโจของปีปัจจุบันต่างจากเล่มแรกเรียกว่าปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ชีวิตค่ะ
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตาม
กติกา สามารถคลิก
แจ้งปัญหาได้ที่นี่