#คุณชาย #ววินิจฉัยกุล #นวนิยายที่รัก #เรื่องราวระหว่างบรรทัดจากหนังสือที่รัก

ชีวิตคนมิใช่ไม้ป่าที่ไม่ต้องการความรักและเอื้ออาทร แต่คือไม้บ้านที่ต้องการการรดน้ำ พรวนดิน และใช้ความรักเป็นปุ๋ยหล่อเลี้ยงลำต้น
โด่งและรวงข้าว คือไม้บ้านที่เติบโตแบบไม้ป่า ไม่ได้รับความรักและความเข้าใจ ชีวิตเธอและเขาแสวงหาความรัก เพื่อที่จะยืนหยัดท้าทายพายุ และลมฝนที่โหมพัดเข้ามาเป็นอุปสรรคชีวิต ซึ่งจะทำให้ทั้งคู่เป็นต้นไม้ที่ยืนต้นอย่างแข็งแกร่งและมีคุณภาพ
โปรยปกหลังจากหนังสือนวนิยายเรื่อง ‘คุณชาย’ ของ ว.วินิจฉัยกุล ฉบับพิมพ์ครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์ดอกหญ้า นวนิยายชีวิตที่เล่าถึงผู้คนผ่านตัวละครหลักๆ ที่เห็นชัดเจน เช่น


โด่ง ชายหนุ่มที่มีชาติกำเนิดไม่ชัดเจน ในตอนต้น และเปิดเผยตอนท้ายเรื่อง วัยเด็กอยู่กับยาย ที่เร่ร่อนมาปลูกกระต๊อบอยู่ในสวน
แล้ววันหนึ่งยายก็ป่วย โด่งมาขอความช่วยเหลือจาก ตาแหยม ชายแก่ไม่มีประวัติความเป็นมาชัดเจนเช่นกัน ตาแหยมปล่อยตัวทรุดโทรม ภาพคุ้นตาชาวบ้านคือตาแหยมนอนกอดขวดเหล้าโรงหรือไม่ก็กะแช่หลับกลิ้งอยู่ในกระต๊อบเล็กๆท้ายสวนของแป๊ะเฮง วันๆ แกมักจะเที่ยวเดินไปคุยกับชาวบ้านในร้านกาแฟ ไม่ก็ไปแวะเวียนขอข้าวก้นบาตรหลวงพ่อที่วัด
เมื่อเด็กน้อยอย่างโด่ง มาขอความช่วยเหลือเมื่อยายป่วย ตาแหยมก็มาขอให้คุณมหา ผู้อารี ช่วยแทน คุณมหาเป็นลูกชายเจ้าของสวนที่ไปบวชเสียนับสิบปี รับมรดกสวนมาแล้วก็รับราชการด้วยเป็นชาวสวนไปด้วย
คุณมหามีภรรยาเป็นพยาบาลชื่อสุภา มีบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนที่ถูกเลี้ยงแบบคุณหนูชื่อ คุณเต้ย
หลังยายตาย คุณมหาก็รับอุปการะโด่ง ส่งเสียให้เรียน และช่วยงานเล็กๆน้อยๆในบ้าน เป็นเหมือนกับเด็กรับใช้ให้คุณเต้ย
ส่วนรวงข้าวเป็นหลานสาวคนสำคัญของคุณหญิงละม้ายทิพย์เจ้าของโรงพยาบาลที่สุภา ภรรยาคุณมหาทำงานอยู่
แล้ววันหนึ่งเด็กหนุ่มสาวสามคนเมื่อโตเป็นวัยรุ่นก็ได้พบกัน คุณเต้ยเป็นคนทะเยอทะยานหัวสูง พยายามเข้ามาใกล้ชิดเป็นเพื่อนกับโบ หลานสาวอีกคนของคุณหญิง ญาติผู้พี่ของรวงข้าว ส่วนโด่งได้พบกับรวงข้าวโดยบังเอิญ และถูกชะตากัน
ทั้งโด่งและรวงข้าวมีความคล้ายกันคือความเป็นลูกครึ่ง หน้าตาผิวพรรณสวยงาม แต่ขาดความรัก
โด่งถูกแม่ทิ้งให้อยู่กับยาย แล้วหายสาบสูญไป ส่วนรวงข้าวถูกแยกจากแม่ชาวอเมริกันหลังแม่เลิกรากับพ่อ ต้องเติบโตมาอย่างถูกทอดทิ้งและขาดความอบอุ่นจากความรักของพ่อแม่ ภายใต้ความเข้มงวดของคุณหญิงละม้ายทิพย์ผู้เป็นย่า
เมื่อคนสองคนที่มีอะไรคล้ายๆกัน เห็นอกเห็นใจกัน เป็นเพื่อนกัน ก็เกาะเกี่ยวกันไว้ด้วยความรู้สึกผูกพันกันจนในที่สุดก็ค่อยๆเติบโตเป็นความรัก
แต่ชีวิตที่ขาดของโด่ง ต้องพิสูจน์ตนเองและอดทนรอคอยกว่าจะถึงวันที่สำเร็จและทำอะไรตามใจตนเองได้ก็ต้องใช้เวลาอันยาวนาน
ชื่อเรื่อง ‘คุณชาย’ นี้ อาจหมายถึงตัวละครชายหลักๆได้ทั้งสามคนคือ
ตาแหยมที่ดูเป็นคนไร้ค่า แต่จริงๆแล้วเบื้องหลังที่แกเก็บซ่อนไว้คือความเป็นราชนิกุลหนุ่มที่ทิ้งชีวิตและชาติกำเนิดสูงส่งลงมาสู่ดิน
โด่ง จากเด็กชายไร้ญาติขาดมิตร ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา และสร้างชีวิตใหม่ให้ตนเองได้ดีขึ้นมาไม่แพ้ และอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับ ‘คุณชาย’ คนอื่นที่ได้มาจากชาติกำเนิดและการเลี้ยงดู เช่นคุณเต้ย
นวนิยายเรื่องนี้เป็นนวนิยายชีวิต สะท้อนสังคม อ่านแล้วก็ได้เรียนรู้ประสบการณ์หลากหลายจากตัวละครมากมายในเรื่อง มีเรื่องราวความรักของตัวละครหลักบ้างแต่ไม่มาก
และที่ขาดไม่ได้ทุกครั้งที่บันทึกการอ่าน คือยกตอนที่ประทับใจที่ส่วนใหญ่คือเรื่องราวรักของตัวละครหลักมาบันทึกเก็บไว้อ่านเช่นเดิม
#ตอนที่ประทับใจ
รวงข้าวมองชายหนุ่มด้วยความทึ่งในตอนแรก แล้วกลับนึกขึ้นได้..จริงสินะ เขาไม่ใช่เด็กหนุ่มเมื่อสิบปีก่อนอีกแล้ว บัดนี้เขามีประสบการณ์ มีความเป็นหนุ่มเต็มตัว ย่อมจะพูดลดเลี้ยวโต้ตอบหล่อนแทนที่จะชอบนิ่งๆ ใช้สายตาแทนคำพูดเหมือนเมื่อก่อน
“คนที่มี ‘ใคร’ หรือ ‘อะไร’ มากมาย เห็นจะไม่ใช่ฝ่ายรวงข้าวแน่” หล่อนย้อน ด้วยความแง่งอนอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใคร
“พี่โด่งนึกออกไหมว่าเป็นใคร”
เขาหัวเราะเบาๆ กระแสเสียงบอกความสุขเต็มเปี่ยม
“แค่รู้ว่ารวงข้าวไม่มี พี่ก็ดีใจที่สุดแล้ว นึกอะไรนอกจากนี้ไม่ออก แล้วไม่เคยนึกด้วย”
หล่อนเลยต้องนิ่ง ไม่อยากตอบอะไรเพราะเกรงว่าจะเข้าเนื้อยิ่งไปกว่าตอนแรก ในที่สุด ก็เห็นเขายิ้มให้หล่อน นัยน์ตาเข้มลึกอย่างนั้น เมื่อมีแววอ่อนหวาน มันก็ให้ความอบอุ่นยิ่งกว่าแสงตะวันยามสายเสียอีก
เขากับหล่อนคุกเข่าอยู่ห่างกันก็จริง แต่ด้วยสายตานั้น…รวงข้าวรู้สึกว่าแก้มร้อนผะผ่าว..ถึงเขาไม่ได้แตะต้องหล่อน ก็ไม่ต่างอะไรกับเขากำลังจูบหล่อนด้วยสายตา…ไม่มีผิดเลย
#โปรยปกหลังฉบับพิมพ์ครั้งล่าสุด

คนเรานะถ้าคิดดี พูดดี ปฏิบัติดี ความดีจะไปไหนเสีย
นอกจากมาอยู่กับตัวเราเอง คนบางคนนั้นไม่ได้เทียว
จะชมใครก็กลัวคนอื่นเขาจะดีกว่า เลยไม่ชม
ต้องชมตัวเองให้หนักๆ ไว้ก่อน กลัวคนเขามองไม่เห็นความดีของตัว
ไม่ยักเข้าใจหรอกว่าความดีนั้นอยู่ที่ตัวคนทุกคนอยู่แล้ว
ขอให้ดีจริงเถอะ
นอกจากมาอยู่กับตัวเราเอง คนบางคนนั้นไม่ได้เทียว
จะชมใครก็กลัวคนอื่นเขาจะดีกว่า เลยไม่ชม
ต้องชมตัวเองให้หนักๆ ไว้ก่อน กลัวคนเขามองไม่เห็นความดีของตัว
ไม่ยักเข้าใจหรอกว่าความดีนั้นอยู่ที่ตัวคนทุกคนอยู่แล้ว
ขอให้ดีจริงเถอะ
#ภาพประกอบ
- นวนิยาย ‘คุณชาย’ โดย ว.วินิจฉัยกุล
- รางวัลชมเชยประเภทนวนิยาย จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ พ.ศ. 2538
- ในภาพคือฉบับปกแข็ง พิมพ์ครั้งล่าสุด พิมพ์ครั้งที่ 7 ธันวาคม 2564
- จัดพิมพ์โดย คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์
- ภาพปกโดย ฟารุต สมัครไทย
- จำนวน 1,024 หน้า

ปกพิมพ์เก่า
- นวนิยายเรื่องคุณชายพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารสกุลไทย พ.ศ. 2536-2537
- พิมพ์รวมเล่มครั้งแรก ธันวาคม 2537
รีรันบันทึกลงเพจและแชร์ลงบล็อก
16 ตุลาคม 2565
16 ตุลาคม 2565
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่