#หนังซีรีส์เพลง #บันเทิงเริงรมย์ในชีวิต #MyHappyMarriage #ขอให้รักเรานี้ได้มีความสุข
ตัวอย่าง My Happy Marriage ขอให้รักเรานี้ได้มีความสุข
วันนี้ได้ฤกษ์เขียนถึงภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง My Happy Marriage live action (2023) ขอให้รักเรานี้ได้มีความสุข เสียที หลังว่าจะเขียนมาหลายรอบแล้ว
My Happy Marriage ขอให้รักเรานี้ได้มีความสุข เป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่สร้างจากอนิเมะที่ได้ดูล่าสุดแล้วชอบมากๆ อยากเขียนถึงตัวละครหลักของเรื่องราวคือบทพระเอกและนางเอกที่น่าประทับใจ
เรน เมกุโระ นักร้องยอดนิยมจากวง Snow Man วงบอยแบนด์ไอดอลญี่ปุ่นจากค่าย Johnny & Associates เคยได้ชมผลงานเรื่องก่อนๆ เช่น ซีรีส์เรื่องยางลบสื่อรัก เรื่องนี้มาในชุดแบบย้อนยุคแปลกตาในทรงผมยาวสีเทาเงิน ในบท คิโยกะ คุโด ชายหนุ่มวัย 27 ปีที่นอกจากเป็นทายาทผู้สืบทอดตระกูลผู้มีพลังพิเศษอันทรงอำนาจอย่างตระกูลคุโดแล้วยังเป็นผู้ใกล้ชิดกับราชสำนัก เป็นมือขวาของท่านคาโยฮิโต องค์รัชทายาท ว่าที่องค์จักรพรรดิแล้ว ยังรับตำแหน่งผู้นำกองกำลังทหารแห่งกองกำลังพลังพิเศษต้านพลังวิปริต
ในขณะที่นางเอกของเรื่องรับบทโดย มีโอะ อิมะดะ นักแสดงและนางแบบสาวชาวฟุกุโอกะ ที่เริ่มต้นการแสดงในบทบาทนักแสดงสมทบในซีรีส์ Boys Over Flowers Season 2 เมื่อปี 2018 ในเรื่องนี้เธอรับบท มิโยะ ไซโมริ บุตรสาวคนโตจากตระกูลไซโมริ สาวน้อยผู้ที่คิดว่าตนเองไม่มีพลังพิเศษ จึงถูกบิดาและแม่เลี้ยงรังเกียจ เลี้ยงดูเธอให้เติบโตมามีชีวิตราวกับคนรับใช้ ชีวิตที่อยู่ภายใต้ความกดดันจากความหวาดกลัว รู้สึกว่าตัวเองต้อยต่ำตลอดเวลา และสุดท้ายบิดาก็ตัดสินใจให้เธอแต่งงานกับท่านคุโด ชายหนุ่มที่มีแต่ข่าวลือถึงความโหดร้ายเย็นชา
เมื่อมิโยะถูกส่งตัวไปยังตระกูลคุโด เพื่อเตรียมตัวเป็นว่าที่คู่หมั้นและเจ้าสาวของท่านคุโด เป็นครั้งแรกที่เธอได้ออกมาจากคุกที่เรียกว่าบ้าน มาพบชายหนุ่มที่มีแต่ข่าวลือร้ายๆ แต่มิโยะยังถือคติว่าเธอต้องปรับตัวให้ได้ในทุกสภาพเพื่อความอยู่รอด เธอจึงเตรียมตัวเตรียมใจยอมทำทุกอย่างเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
แต่เมื่อมาพบท่านคุโด ชายหนุ่มที่มองผิวเผินว่าเป็นคนทรงอำนาจ ดุดัน ปกครองคนด้วยคำสั่งอันเด็ดขาด ตามบุคลิกชายชาติทหาร แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอจึงค้นพบว่าแท้จริงแล้วคิโยกะ คุโด เป็นชายหนุ่มโดดเดี่ยวที่ใช้ชีวิตอยู่กับ ยูริเอะ แม่บ้านที่ดูแลเขาไม่ต่างจากแม่ ในขณะที่มารดาแท้ๆ ผู้เด่นดังใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในวงสังคมมากกว่าจะใกล้ชิดกับบุตรธิดา คิโยกะจึงมีนิสัยอ่อนโยน ช่างสังเกต และมีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น เป็นที่รักของผู้ใต้บังคับบัญชา
ตอนที่คิโยกะเห็นว่าที่เจ้าสาวของตัวเอง หญิงสาวที่มาจากตระกูลผู้ดีแต่กลับมีท่าทีอ่อนน้อมยอมคน ก้มหัวเอ่ยคำขอโทษเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ภายใต้ใบหน้าอิดโรยสวมชุดกิโมโนเก่าคร่ำคร่าที่ปะชุนซ่อมแซมซ้ำแล้วซ้ำเล่า สองมือเธอเต็มไปด้วยรอยถลอกแดงจากการทำงานหนัก เขาก็แอบติดตามสืบข่าวชีวิตความเป็นมาของเธอ
เรื่องราวความรักแบบค่อยเป็นค่อยไปที่เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจกัน ทำให้มิโยะรู้สึกเป็นครั้งแรกว่ายังมีคนมองเห็นตัวตนอันต่ำต้อยของเธอ เมื่อคิโยกะเอ่ยชมฝีมือทำอาหารที่เธอทำ หรือว่าเมื่อเขาใช้พลังพิเศษจากไฟช่วยต้มน้ำร้อนในอ่างอาบน้ำแล้วยังใส่ถุงสมุนไพรให้เธอรักษาอาการบาดเจ็บจากการกรำทำงานหนักในขณะที่ตัวเองไม่เคยชอบใช้สมุนไพรเลย พาเธอไปซื้อชุดกิโมโน แล้วก็ให้หวีไม้แกะสลักอันสื่อถึงการขอแต่งงานตามธรรมเนียมของคนญี่ปุ่นที่แสนเรียบง่ายคลาสสิก
รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ในเรื่องราวที่สื่อถึงการแสดงออกเป็นการกระทำที่ห่วงใยเอื้ออารีต่อกันของคนสองคนจนกระทั่งถึงฉากที่มิโยะทำเชือกมัดผมให้คิโยกะ ฉากนี้เราจึงเห็นรอยยิ้มกว้างด้วยความสุขเป็นครั้งแรกของมิโยะ ไซโมริ ในขณะที่คิโยกะก็ปล่อยให้หญิงคนรักดูแลจัดแต่งผมให้ เป็นฉากโรแมนติกอบอุ่นที่ชอบมาก
ความจริงภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากหลังแนวแฟนตาซีในยุคที่ญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากตะวันตก ก่อนเข้าสู่ยุคปัจจุบัน ธีมหลักของเรื่องราวมีประเด็นเรื่องพลังพิเศษประจำแต่ละตระกูลที่ต่างฝ่ายต่างผูกสัมพันธ์กันระหว่างตระกูลเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ผ่านการแต่งงานที่ผู้ใหญ่แต่ละตระกูลจัดการทั้งสิ้น ปมเรื่องสำคัญคือพลังพิเศษภายในตัวมิโยะที่เรื่องราวค่อยๆ เปิดเผยจนถึงตอนท้ายสุด เมื่อเกิดวิกฤตจากแมลงปีศาจที่เข้าโจมตีครอบงำชาวเมืองจนคืบคลานเข้ามาสู่ใจกลางกองกำลังพิเศษของคิโยกะ คุโด
ฉากที่ชอบและตื่นตาตื่นใจคือฉากวันที่แม่เลี้ยงและน้องสาวใจร้ายของมิโยะจับตัวเธอไปทรมานเพื่อบังคับให้มิโยะถอนหมั้น แล้วท่านคุโดก็ใช้พลังพิเศษจากไฟเผาประตูด้านหน้าปราสาทตระกูลไซโมริเพื่อบุกเข้ามาชิงตัวช่วยเหลือหญิงคนรักนั้นแสนประทับใจ ยิ่งปิดท้ายสั่งลาด้วยคำพูดใส่หน้าคายะ ไซโมริ น้องสาวต่างแม่ของมิโยะว่า “ต่อให้ฟ้าดินกลับตาลปัตร ข้าก็ไม่มีวันเลือกเจ้า” ดูจบฉากนี้ปรบมือให้บทบาทพระเอกในเรื่องนี้ที่ช่างออกแบบตัวละครได้ถูกใจแฟนคลับสาวน้อยสาวใหญ่คนดูทีเดียวค่ะ
เรื่องนี้ดูแล้วชอบจนต้องหาเวลาเขียนบันทึกถึง หลังจากดูจบตั้งแต่วันแรกที่เริ่มสตรีมมิ่งใน Netflix ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ใครชอบแนวนี้ติดตามกันได้ค่ะ
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Mongkol Cinema, เว็บไซต์ สหมงคลฟิล์ม
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่