#บันทึกการอ่าน #เกนรีมายรี #โสภาคสุวรรณ
#นวนิยายเรื่องแรกของโสภาคสุวรรณที่ผ่านกาลเวลามาห้าสิบเอ็ดปี
เมื่อคืนก่อนอ่านเกนรีมายรีจบลง ผ่านมาร่วมยี่สิบปีจากเมื่ออ่านครั้งก่อน ก็ยังรู้สึกชอบเหมือนเดิม และประทับใจในอัจฉริยะของผู้เขียน เพราะนวนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของโสภาค สุวรรณที่ได้ลงในสตรีสาร ตั้งแต่เมื่อปี 2516 ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตของเจ้าฟ้าหญิงองค์น้อยสองพระองค์ พระธิดาของเจ้าฟ้ารัฐฉาน จากชีวิตจริงที่เราได้อ่านกันในหนังสือ “สิ้นแสงฉาน”
เนื้อเรื่องนำเพียงชื่อตัวละครและฉากหลังในยุคทหารยึดอำนาจและรวบรวมเจ้าฟ้าในรัฐต่างๆ ขึ้นตรงต่อส่วนกลางภายใต้อำนาจของผู้นำทหาร ฉากหลังในนวนิยายจึงมีสถานที่ในเรื่องราวคือที่ประเทศเพื่อนบ้านและในไทย เพราะเรื่องราวดัดแปลงให้เจ้านางน้อยสององค์มีพระมารดาเป็นคนไทย เปิดเรื่องมาคือพระบิดา เจ้าฟ้าแห่งหอคำถูกกุมขัง เจ้านางหลวงพระมารดาประชวรและสิ้นพระชนม์ ก่อนสิ้นทรงฝากฝังให้ข้าราชการใกล้ชิดจัดการประสานงานอ้างสิทธิ์ในความมีเชื้อชาติไทยครึ่งหนึ่งของเจ้าหญิงสององค์ให้ได้กลับไปอยู่กับคุณยายที่เมืองไทย
เจ้านางเกนรีองค์พี่เป็นคนเด็ดเดี่ยวเข้มแข็ง จิตใจเต็มไปด้วยความรักชาติ อุดมการณ์และหน้าที่ตามที่ได้รับการปลูกฝังมาแต่ทรงพระเยาว์ ทรงมีพระคู่หมั้นที่ทางผู้ใหญ่กำหนดกันไว้แล้วคือ เจ้าฟ้าวรอินทร์ เจ้าฟ้าเมืองเสียง แต่เมื่อเกิดเปลี่ยนการปกครอง เจ้าวรอินทร์หลบหนีเข้าไทยมาทางเชียงใหม่ แล้วเติบโตมาภายใต้การดูแลของพระญาติ เรียนจบรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ แล้วต่อมาไปจบด็อกเตอร์จากต่างประเทศ กลับมาเป็นอาจารย์ที่ธรรมศาสตร์
เจ้านางเกนรี มายรี ได้รับการอุปการะจากคุณยายคือหม่อมหลวงนวลจันทร์ คุณยายมีเพื่อนที่สนิทสนมอยู่บ้านใกล้กันคือหม่อมราชวงศ์พริ้มเพรา หรือหม่อมพริ้ม ที่คอยช่วยเหลือให้คุณยายมีงานทำยามชราคือเป็นเสมียนที่ธนาคาร ทั้งคู่เติบโตมาด้วยชีวิตที่คุณยายต้องประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อเก็บเงินส่งหลานเรียน แต่โชคร้ายของเจ้านางมายรี องค์น้อยที่ประสบอุบัติเหตุจมน้ำสิ้นชีวิตตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ จึงเหลือแต่เจ้านางเกนรีองค์เดียวที่เติบโตขึ้นมาอย่างโดดเดี่ยว
เจ้านางเกนรีมีพระประสงค์จะเป็นแพทย์เพื่อจะได้นำวิชาความรู้กลับไปช่วยประชาชนที่บ้านเกิดของพระองค์หลังเรียนจบ แต่โชคร้ายที่จู่ๆคุณยายก็เสียชีวิตกะทันหันตอนที่ทรงเรียนอยู่ปีสาม ท่านชายน้อย โอรสของหม่อมพริ้มที่เป็นคุณหมอและเป็นพระอาจารย์ ก็ทรงช่วยเหลือ โดยไปขอทุนการศึกษาจาก เขต อนุรักษ์ราชวัลลภ ข้าราชการกรมองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และในฐานะทายาทคนปัจจุบันที่ตั้งกองทุนสนับสนุนการศึกษาแพทย์
แล้วเจ้านางก็ได้เรียนจนจบแพทย์ด้วยกองทุนอนุรักษ์ราชวัลลภ และทรงตอบแทนเจ้าของทุนด้วยการมารับช่วงมาเป็นแพทย์ประจำครอบครัวอนุรักษ์ราชวัลลภ คนไข้คนแรกของเจ้านางคือ แม่แก่ แม่ครัวเก่าแก่ที่จู่ๆ ล้มฟาดจนกลายเป็นอัมพฤกษ์ แล้วคุณหมอเจ้านางเกนรีก็เลยต้องเข้ามาตรวจคนไข้ทุกวันที่บ้านอนุรักษ์ราชวัลลภ จนเป็นเหตุให้ได้ใกล้ชิดกับเจ้าบ้าน จนกลายเป็นความรักที่ค่อยๆก่อตัว แต่ต่างฝ่ายต่างตระหนักถึงความเป็นไปไม่ได้เพราะเจ้านางมีภาระผูกพันอยู่กับเจ้าวรอินทร์
นี่คือเรื่องราวต้นเรื่องครึ่งเรื่องในเล่มแรก ส่วนเล่มสองคือช่วงชีวิตที่เจ้านางกับเขตต้องจำใจแยกจากกันทั้งที่รักกัน เมื่อเจ้านางต้องเดินทางกลับมาบ้านเกิดพร้อมเจ้าวรอินทร์เพื่อทำพิธีหมั้นอย่างเป็นทางการ แล้วร่วมกันปฏิบัติภารกิจดูแลบำรุงขวัญชาวบ้านในฐานะว่าที่เจ้าฟ้าและเจ้านางหลวงองค์ใหม่ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอนและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมและต้องเผชิญกับการก่อการร้ายจากชนกลุ่มน้อยที่โกรธแค้นรัฐบาลกลาง
เรื่องราวสองเล่มจบลงด้วยความสุขนะคะ แล้วทั้งคู่ก็ได้พบกันโดยไม่คาดฝันอีกครั้งเมื่อเขตได้รับตำแหน่งอุปทูต ย้ายมาประจำที่พม่า กว่าจะจบก็อ่านไปให้กำลังใจตัวละครพระเอกนางเอกที่รักกันแต่จำเป็นต้องห่างไกลกัน มีรายละเอียดเหตุการณ์อีกมากมายที่พม่าที่ดำเนินเรื่องต่อมาจนท้ายสุดก็จบลงด้วยความสุขค่ะ
#ตอนที่ประทับใจ
ฉากที่เจ้านางเกนรีคุยกับเขต ถึงความรู้สึกในใจที่มีต่อเจ้าวรอินทร์และเรื่องความรัก
“ดิฉันเคยเล่าให้คุณเขตฟังแล้วว่า ดิฉันเกิดมาก็มีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตัวตามขนบประเพณีตลอดมา แม้เรื่องของความสุขส่วนตัวก็ยังต้องทำตามหน้าที่……เรื่องความซื่อสัตย์หรือไม่ ดิฉันตอบไม่ได้ เพราะดิฉันไม่ได้รักท่านอย่างหญิงสาวรักชายหนุ่ม ดิฉันมีแต่ความผูกพันอย่างลึกซึ้งที่มีมาแต่เด็ก ความยากลำบาก และการต่อสู้เพื่ออุดมการณ์บางอย่าง ทำให้ดิฉันทิ้งท่านไม่ได้ เราจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อจุดประสงค์ในบั้นปลาย เพราะฉะนั้นดิฉันจะซื่อสัตย์หรือไม่ ก็เป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ ไม่ใช่หรือคะ”
“แต่การอยู่ร่วมกันต้องการความรักนะเธอ” เขาแย้ง
“ดิฉันทราบดีค่ะ และกำลังพยายามทุกวันที่จะรักเจ้าพี่อย่างนั้น นอกเสียจากว่า…” คำพูดประโยคนั้นขาดหายไป เขตได้พบการเปลี่ยนแปลงที่ใบหน้าและท่าทางของคนพูดซึ่งเคยเก็บความรู้สึกได้ดีเยี่ยม เขานึกเห็นใจเธอเป็นครั้งแรก และเริ่มรู้สึกตัวว่าความสนใจที่จดจ่อต่อผู้หญิงคนนี้มีรากฐานมาจากอะไร จะว่าเขาพอใจ…เห็นจะไม่ใช่…คนเราจะหวังในสิ่งที่ไม่มีหวังเป็นเด็ดขาดไม่ได้หรอก…ถ้าถูกถามว่า เหตุใดเขาจึงนำตัวเองเข้ามาผูกพันกับเธอมากขึ้นทุกวัน เขาก็ตอบได้ว่าเป็นความสุขใจอย่างหนึ่งที่จะได้ใกล้ชิดผู้หญิงคนนี้ นั่นเรียกว่าอะไร… ก็เขาไม่ได้หวังในตัวเธอมากไปกว่าความสัมพันธ์ของคนที่เข้าใจกัน และต่างก็ได้รับความสุขจากการกระทำนั้น
“เธอคิดว่าการเป็นมิตรสนิทของเรา คือความสุขไหมล่ะ” เขาถามขึ้นอีก
“ดิฉัน…ไม่เคยมีใครที่เข้าใจในตัวของดิฉันเท่ากับคุณค่ะ” เธอตอบตามตรง แล้วกล่าวต่อไปว่า
“ดิฉันหายว้าเหว่เมื่อพบเจ้าพี่ แต่เมื่อพบคุณ…ดิฉันรู้จักตัวเองดีขึ้น ดิฉันคงจะลืมคุณไม่ได้ตลอดไป แม้ว่าจะกลับไปโน่นแล้วก็ตาม”
#ภาพประกอบเรื่อง
- นวนิยาย เกนรี มายรี : โสภาค สุวรรณ
- ฉบับปกแข็ง สองเล่มจบ
- สำนักพิมพ์บำรุงสาส์น
2 มีนาคม 2567
Kapook Creator เป็นเนื้อหาที่นำเสนอโดยผู้สร้างสรรค์ที่เข้าร่วมโครงการ หากพบเนื้อหาที่ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องตามกติกา สามารถคลิกแจ้งปัญหาได้ที่นี่