ก่อนรักษาฝ้า
หลังรักษาฝ้าที่ รพ.รามาฯ
ย้อนรอยฝ้าที่หน้า มาได้อย่างไร ?
ช่วงรักษาที่คลินิก เหมือนจางนิดเดียว แต่เสียเงินหลักหมื่น
ก่อนหน้านี้ (นานมาแล้ว 55…) เราไม่เคยมีความกังวลใจเรื่องสิว ฝ้า หน้าดำ หรือจุดด่างดำเลย ปัญหาเริ่มเกิดจากการที่เราอยากให้หน้าขาวใส เห็นเพื่อนไปกรอหน้าที่คลินิกหน้าหอพักแล้วหน้าขาว เนียน ใส เลยอยากทำบ้าง โดยไม่มีการค้นหาข้อมูล หรือศึกษาผลกระทบที่จะตามมา
กระทั่งผ่านไป 3 เดือน มีรอยดำขึ้นที่หน้า เริ่มคิดว่าเราไม่น่าจะรักษาต่อแหละ ประกอบกับเพื่อนย้ายคลินิกไปรักษากับคุณหมอในซอย ไปค่ะ… ตามไปอีก ที่นี่หมอรักษาดี พูดดี มีเครื่องมือเลเซอร์เล็ก ๆ เลยตกลงรักษาด้วยการเลเซอร์ บอกเลยหน้าบางและพังกว่าเดิม แถมทาครีมบำรุงหน้าไม่ดี ทากันแดดไม่ทั่วถึง ประกอบกับเวลาออกแดดไม่ระวัง จากนั้นใบหน้าก็เต็มไปด้วยแผนที่ประเทศไทย กระดำกระด่างไปทั่ว ก่อนลุกลามกลายเป็นฝ้าฝังแน่นทุกอณูรูขุมขนบนใบหน้าเลยทีเดียว
ประสบการณ์รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำที่ไหน ด้วยวิธีอะไรมาบ้าง ?
ช่วงนี้รักษาที่คลินิกแห่งหนึ่งในเอสพลานาด สังเกตยังมีฝ้าเกาะหนา ๆ
ยังไม่ยอมแพ้ … เพื่อนมาเจอคลินิกแห่งหนึ่งในเอสพลานาด คุณหมอที่รักษาเป็นเจ้าของ เลยคิดว่าที่นี่น่าจะดูแลและรักษาดี ตามเพื่อนมาอีก… ลองไปทำเรื่อย ๆ อยู่กับคลินิกนี้นานเหมือนกัน เคยลองทั้ง ครีม ยากิน ยาฉีดเข้าผิวหน้า IPL หน้าดำ เมโสหน้าใส และกระทั่งฉีดยาเข้าตรงจุดที่มีฝ้า ช่วงนั้นรู้สึกหน้าดี แต่ไม่หายขาด ยังมีฝ้าบนหน้าปรากฏให้เห็น ต้องปกปิดด้วยการแต่งหน้า รองพื้นหนา ๆ เข้าไว้ และพอไม่ไปทำทุกเดือน หน้ากลับมาเหมือนเดิมค่ะ แต่เราไม่ไหว ที่ไม่ไหวคือ ทั้งหน้าพัง และเงินหมดไปเยอะมาก >< ก็เลยหยุดใช้วีธีแบบรักษาประคับประครอง เหลือแค่ IPL กับทาครีมพอ ในช่วงเวลานั้นท้อใจเรื่องฝ้าและจุดด่างดำบนหน้า บอกตัวเองว่าพอแล้ว …
จุดเริ่มต้นรักษาฝ้า และจุดด่างดำที่รามาธิบดี
ช่วงนี้ฝ้าเริ่มขึ้นมาอีกรอบ สังเกตดี ๆ รูปนี้โปะรองฟื้นและแป้งแบบดี แต่ถ่ายรูปมามีความหมองของใบหน้า
หลังจากพักรักษาหน้าไป ช่วงนั้นฝ้าขึ้นเยอะมาก หลายคนทัก แต่ไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่ายิ่งทำ ยิ่งผุดขึ้นยังกะดอกเห็ด แถมค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งค่อนข้างใช้จ่ายไปมากโข กระทั่งมีเรื่องบังเอิญกลับมาเจอเพื่อนสนิทที่ห่างหายไม่ได้เจอนาน แล้วเพื่อนทักทำไมไม่ดูแลตัวเอง เลยเล่าถึงปัญหาและการรักษาฝ้าที่ไม่ได้ผลให้ฟัง เพื่อนเลยแชร์ข้อมูลเรื่องที่น้องไปที่ศิริราช ฝ้าหายจริง
ฝ้าเริ่มกลับมาสามัคคีเกาะกันแน่นหนา
หลังจากวันนั้น กลับมาเริ่มค้นหาข้อมูลและรีเช็กใหม่ ถ้าไปรักษาที่ศิริราชอยู่ไกล ไปไม่ถูกด้วย เลยไปค้นหาว่า มีโรงพยาบาลไหนที่รักษาแล้วได้ผล ไปเจอคนรีวิวไว้ว่า เคยรักษาฝ้าที่โรงพยาบาลรามาธิบดี กับอาจารย์หมอสมศักดิ์ ตันรัตนากร แล้วหายจริงนะ ราคาไม่แพง เห็นผลด้วย… ใช่ค่ะ เราเลยตัดสินใจไปลองดูอีกครั้ง
ขั้นตอนการไปรักษาฝ้า จุดด่างดำที่รามาธิบดี
จากการเช็กข้อมูลคลินิกพิเศษ นอกเวลาราชการ อาจารย์หมอสมศักดิ์ มีเข้าตรวจหลัง 16.00-20.00 น. ในวันช่วงอังคาร, พุธ และศุกร์ (สอบถามวันลงตรวจของอาจารย์อีกครั้งนะคะ) แต่เนื่องจากเราทำงานในวันดังกล่าว ไม่สะดวก จึงนัดคิวเป็นทุกวันเสาร์ค่ะ ซึ่งรายละเอียดการรักษาและขั้นตอนการรักษา จะเป็นดังนี้
ทางเดินสะพานลอยมีป้ายบอกทาง ให้เดินฝั่งที่เป็นถนนสีเขียวนะคะ
ชั้น 2 รอชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง และวัดความดันโลหิต
7. เดินเลี้ยวเข้าอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ ชั้น 2 ไปรับคิวเพื่อชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง และวัดความดันโลหิต ที่จุดบริการหน้าบันไดเลื่อนชั้น 2 จุดนี้เจ้าหน้าที่จะขอให้เปิด RAMA App และสแกนข้อมูลทุกอย่างเข้าแอปฯ (กรณีที่ผู้นัดไม่ได้ใช้ RAMA App ให้ยื่นบัตรนัดที่หน่วยตรวจผิวหนัง ณ เคาน์เตอร์ J1 ก่อนเวลานัด 30 นาที และยื่นบัตรนัดไม่เกิน 10.30 น.)
หน้าห้องหน่วยตรวจผิวหนัง ชั้น 2 โซน J
8. จากนั้นเดินมาติดต่อขอนัดตรวจที่หน่วยตรวจผิวหนัง ชั้น 2 โซน J ชั้นเดียวกับข้อ 8 และเปิด RAMA App ให้เจ้าหน้าที่สแกน จุดนี้แนะนำมาก่อนเวลานัด 15-30 นาทีนะคะ (แต่ไม่ควรยื่นหลัง 12.00 น.) เสร็จแล้วก็นั่งรอพบแพทย์ตามลำดับ
ในบริเวณที่นั่งรอจะเป็นเก้าอี้คนป่วยที่นั่งรอคุณหมอหลาย ๆ ท่าน คนจะเยอะหน่อยนะคะ รอจนกว่าจะเรียกชื่อเพื่อไปรอหน้าห้องอาจารย์หมอต่อค่ะ โดยวันนี้คุณหมอตรวจที่ห้อง เบอร์ 6
รอหน้าห้องตรวจ
9. ถึงคิวเข้าพบคุณหมอ ในขั้นตอนนี้คุณหมอจะอ่านประวัติการรักษา พร้อมดูหน้าเราเป็นยังไง ถามอาการ ผลการรักษา แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการรักษา การจ่ายครีม และการเลเซอร์ ซึ่งครั้งนี้เราแจ้งคุณหมอขอครีมเยอะหน่อย ขออย่างละ 8 ตลับ เผื่อกลับบ้านต่างจังหวัดนานค่ะ
10. กรณีของเรามีทำเลเซอร์ต่อ จึงมารอพยาบาลมาเรียกเพื่อเซ็นชื่อในการรักษาเลเซอร์ที่ห้องเบอร์ 10 ต่อ และรอเรียกคิวรับเอกสาร พร้อมแจ้งวันนัด (สำหรับคนที่ไม่มีเลเซอร์ สามารถรับใบสั่งยา ชำระเงินที่การเงิน และกลับบ้านได้เลยค่ะ ส่วนวันนัดถ้ายังไม่ได้ลง RAMA App ก็มีใบนัด แต่ถ้าใครโหลด RAMA App สามารถเช็กที่ App ได้เลยค่ะ)
ศูนย์ศัลยกรรมเลเซอร์ผิวหนังชั้น 4
11. รับเอกสารเสร็จ เตรียมไปทำเลเซอร์ ที่ศูนย์ศัลยกรรมเลเซอร์ผิวหนังชั้น 4 ยื่นเอกสารเคาน์เตอร์ลงทะเบียนชั้น 4 รอเจ้าหน้าที่มาเรียกคิวทำความสะอาดหน้า ซึ่งมีที่เช็ดหน้า และล้างหน้าฟรี จากแบรนด์ต่าง ๆ ให้เลือกค่ะ
12. ล้างหน้าเสร็จเดินเปลี่ยนรองเท้า และไปแปะยาชาด้านในต่อ ซึ่งจุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่พาไปค่ะ
แปะยาชาทั่วหน้าค่ะ
14. ถึงคิวก็เข้าห้อง นอนทำเลเซอร์ มีคุณพยาบาลช่วยเป่าลมเย็นบนหน้าไม่ให้ร้อนเกินไป แล้วคุณหมอก็จะยิง ๆ เลเซอร์ทั่วหน้าใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีไม่เกินนี้ค่ะ ถามว่าเจ็บไหม … น้ำตาไหล 55
หลังออกจากเลเซอร์มาประคบน้ำแข็งต่อ
16. ครบถ้วน 20 นาที มารับคำแนะนำการปฏิบัติตนหลังทำเลเซอร์ มาทาครีมบำรุงและกันแดด ที่วางหน้ากระจกฟรีได้เลย มีหลายแบรนด์ให้เลือกค่ะ (แล้วแต่เคสนะคะ ว่าทำเลเซอร์แบบไหนมา บางคน ห้ามโดนน้ำ โดนครีม ในช่วง 1-2 วัน หรือแปะขี้ผึ้งเหนียว ๆ อย่างเดียวพอ)
17. ลงมาชั้น 2 ชำระเงิน เสร็จแล้วรับยาข้าง ๆ ต่อ และกลับบ้านได้เลย
หลังทำเสร็จ 2 สัปดาห์ ไม่ได้ทารองพื้น ทาแค่ครีมที่คุณหมอสั่ง แนะนำว่าก่อน 2 สัปดาห์ห้ามทาครีมนะคะ
ค่าใช้จ่ายรักษาฝ้า จุดด่างดำ ที่รามาธิบดี
Bleaching Cream
White (Vit C+Licorice)
- ค่าบริการคลินิกนอกเวลา 250 บาท
- ค่าทำหัตถกรรม 2,000 บาท
- ค่าธรรมเนียมแพทย์ทำหัตถกรรม 750 บาท
- ค่าธรรมเนียมแพทย์ผู้ป่วยนอก (คลินิกพิเศษนอกเวลา) 400 บาท
- ค่ายาชา และพ่นลมเย็น 265 บาท
- ค่าครีม 1,638 บาท ดังนี้
- Bleaching Cream 72.75 บาท/ตลับ จำนวน 8 ตลับ = 582 บาท
- White (Vit C+Licorice) 132 บาท/หลอด จำนวน 8 หลอด = 1,056 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม :
ตัวอย่างหน้า RAMA App
- หากจะรักษาที่รามาฯ แนะนำให้โหลด RAMA App ไว้เลยค่ะ สะดวกมาก สามารถเช็กวันนัด, เลื่อนวันนัด หรือเช็กสถานะการรับยา, จ่ายเงินได้เลย
- แนะนำให้ไปถึงก่อนเวลาหมอนัดตรวจ 1 ชั่วโมงค่ะ
- หลังทำเลเซอร์ ช่วง 1 สัปดาห์แรกต้องระวังไม่ให้โดนแดดนะคะ
- ลงครีมและกันแดดให้ทั่วหน้า จะมีครีม ที่คุณหมอแนะนำให้ใช้ทุกเช้า - กลางคืน เพื่อให้หน้าชุ่มชื้น ตอนแรกคุณหมอสั่งให้ แต่มีขายที่ชั้น 2 ที่อยู่ร้านขายยาของรามาฯ ค่ะ คุณหมอจึงแนะนำให้ไปซื้อที่นั่นเลยค่ะ
2 ครีม ที่ซื้อในร้านขายยาชั้น 2 รพ.รามาฯ ค่ะ
- เราซื้อครีมบำรุงหน้า Eucerin Instant Calming สำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย มาใช้เพื่อบำรุงหน้าคู่ไปด้วย เสริมผิวให้แข็งแรงหลังเลเซอร์ ซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะในโรงพยาบาลและคลินิก
- กันแดดก็ใช้ของ Edcerin Sun Fluid Mattifying DP 60+ ML 50+/UVA และ PA++++ ตัวนี้ก็มีจำหน่ายเฉพาะในโรงพยาบาลและคลินิกเท่านั้นนะคะ
- ส่วนที่ล้างเครื่องสำอาง และโฟมล้างหน้าเราใช้แบบเรื่อยเปื่อย แต่จะเป็นสูตรอ่อนโยน สำหรับผิวแพ้ง่าย
หลังเลเซอร์ต้องระวังแดดนะคะ เราปิดหน้ากาก 2 ชั้นไปเลย
- หลังการเลเซอร์ให้ระวังอย่าให้โดนแดดที่แสงจ้าเกินไป ถ้าออกแดดแนะนำให้กางร่มทุกครั้ง หรือหาผ้าคลุมหัวปิดหน้าไว้ค่ะ
พอหน้าไร้ฝ้าก็ไม่ต้องทารองพื้นหนา ๆ แล้วค่ะ
ผลงาน iTha (ไอ้ฐา) พาไปดูอะไร
- ชีวิตติดขัด ! แนะแก้กรรม ถอนคําสาบาน หลวงพ่อกลักฝิ่น วัดสุทัศน์
- ชี้เป้า 2 คาเฟ่เปิดใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ควรค่ามาดื่มด่ำ - เช็กอิน
- อยากรวยต้องมู ! บูชาเทวาลัยพระวิษณุ เสาชิงช้า ขอพรงานเด่น เงินปัง
- ชี้เป้าสักการะ 3 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดังกลางกรุง ให้ชีวิตปัง ๆ
- รีวิว King the Land พร้อม 6 เหตุผลที่ห้ามพลาดชม !
- แชร์ 5 ความประทับใจ หลังดูซีรีส์ สยบรักจอมเสเพล (Destined)